เมนู

139. อรรถกถาสาลทายกเถราปทานที่ 10


อปทานของท่านพระสาลทายถเถระ มีคำเริ่มต้นว่า มิคราช
ตทา อาสึ
ดังนี้.
แม้พระเถระรูปนี้ ก็ได้เคยบำเพ็ญกุศลมาแล้วในพระพุทธเจ้าพระ-
องค์ก่อน ๆ ทุก ๆ ภพนั้น จะสั่งสมแต่กุศลกรรมไว้เป็นประจำเสมอ
แต่เพราะถูกกรรมบางอย่างตัดรอน จึงได้บังเกิดในกำเนิดราชสีห์อยู่ในป่า
หิมวันต์มีราชสีห์หลายตัวเป็นบริวาร. ในคราวนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าทรง
พระนามว่าสิขี ได้เสด็จไปยังป่าหิมวันต์เพื่อทรงอนุเคราะห์แก่เขา ราชสีห์
นั้น พอได้เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จเข้าไปหา ก็มีใจเลื่อมใส หักกิ่งไม้
แล้ว เลือกเก็บเอาแต่ดอกสาละพร้อมทั้งดอกกรรณิการ์มาบูชาแล้ว. พระ-
ผู้มีพระภาคเจ้า ได้ทรงกระทำอนุโมทนาแก่เขาแล้ว.
ด้วยบุญนั้น เขาจึงได้ท่องเที่ยวไปในเทวโลกและมนุษยโลก ได้
เสวยสมบัติในโลกทั้งสองเสร็จแล้ว ในพุทธุปบาทกาลนี้ เขาได้บังเกิด
ในเรือนมีตระกูลแห่งหนึ่ง บรรลุนิติภาวะแล้ว เลื่อมใสในพระศาสดา
บวชแล้ว ได้บรรลุพระอรหัตแล้ว ระลึกถึงบุพกรรมของตนได้ เกิด
ความโสมนัสใจ เมื่อจะประกาศถึงเรื่องราวที่ตนเคยได้ประพฤติมาแล้วใน
กาลก่อน จึงกล่าวคำเริ่มต้นว่า มิคราชา ตทา อาสึ ดังนี้. พึงทราบ
วิเคราะห์ในคำว่า มิคราชา นั้นดังต่อไปนี้ ชื่อว่า มิคะ เพราะย่อมไปสู่
ความตาย. อีกอย่างหนึ่ง ชื่อว่า มิคะ เพราะย่อมค้นหา คือแสวงหาอาหาร,
ราชาแห่งมิคะทั้งหลาย ชื่อว่า มิคราชา แม้เมื่อราชาแห่งสัตว์สี่เท้าทั้งสิ้น
มีอยู่ แต่ท่านเรียกว่า มิคราชา ก็เพราะทำมิคะให้เป็นประธานเพื่อสะดวก

แก่กาลผูกคาถา. อธิบายว่า ในคราวที่เราได้เป็นมิคราชา ได้พบเห็น
พระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว ได้หักกิ่งไม้สาละพร้อมทั้งดอกไม้มาบูชาแล้ว.
บทว่า สโกสํ ปุปฺผมาหรึ ความว่า เราได้นำเอาดอกสาละพร้อมทั้งดอก
กรรณิการ์มาบูชาแล้ว. คำที่เหลือมีเนื้อความง่ายทั้งนั้นแล.
จบอรรถกถาสาลทายกเถราปทาน

ผลทายกเถราปทานที่ 10 (140)


ว่าด้วยผลแห่งการถวายผลมะหาด


[142] ในกาลนั้น เราเป็นพรานเที่ยวฆ่าสัตว์อื่นเป็นอย่างมาก
สำเร็จการนอนอยู่ที่เงื้อมเขา ไม่ไกลพระศาสดาพระนามว่าสิขี.

เราได้เห็นพระพุทธเจ้าอัครนายกของโลก ทั้งเวลาเย็น
เวลาเช้า ก็เราไม่มีไทยธรรมสำหรับถวายแด่พระศาสดาผู้
จอมสัตว์ ผู้คงที่.

เราได้ถือเอาผลมะหาดไปสู่สำนักพระพุทธเจ้า พระผู้มี-
พระภาคเจ้าเชษฐบุรุษของโลกผู้ประเสริฐกว่านระทรงรับ.

ต่อแต่นั้น เราได้ถือเอาผลมะหาดไป ทูลถวายพระองค์
ผู้นำวิเศษ ด้วยจิตอันเลื่อมใสนั้น เราได้ทำกาลกิริยา ณ ที่นั้น
เอง.

ในกัปที่ 31 แต่กัปนี้ เราได้ถวายผลมะหาดใด ด้วยกรรม
นั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการถวายผลไม้.

ในกัปที่ 15 แต่กัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 3 ครั้ง
ทรงพระนามว่ามาลภิ ทรงสมบูรณ์ด้วยแก้ว 7 ประการ มี
พละมาก.

คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 และ
อภิญญา 6 เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า
เราได้ทำเสร็จแล้ว
ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระผลทายกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการ
ฉะนี้แล.
จบผลทายกเถราปทาน